เทศกาลกินเจ 2566 ต้นกำเนิดเทศกาลและข้อควรปฏิบัติเทศกาลกินเจ

เทศกาลกินเจ หรือ กินแจ (素食节) มีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม จะจัดขึ้นทุกปีในเดือนที่ 9 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน กินเจกี่วัน ซึ่งปีนี้จะตรงกับ วันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ซึ่งผู้ศรัทธาเชื่อว่า เทศกาลกินเจภูเก็ต และพิธีกรรมทางศาสนาที่เกี่ยวข้องสามารถชำระล้างร่างกายและจิตใจได้ นี่เป็น หนึ่งในงานใหญ่ประจำปี ในจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย มีต้นกำเนิดมาจากแรงงานอพยพชาวต่างชาติในศตวรรษที่ 19 ชาวจีนเชื้อสายจีนเริ่มรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นเวลา 10 วัน มีการเฉลิมฉลองและขบวนพาเหรดในวัดจีนในท้องถิ่น และ ได้กลายเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางศาสนาอย่างเคร่งครัด เทศกาลกินเจของไทยหรือที่รู้จักกันในชื่อเทศกาลถือศีลอดเก้าจักรพรรดิ ว่ากันว่าสืบทอดมาจากประเทศจีน

ต้นกำเนิดของเทศกาลกินเจ

เทศกาลกินเจในจังหวัดภูเก็ต เริ่มต้นราวปี พ.ศ. 2368 ตำนานเล่าว่าคณะละครจีนชื่อดังอพยพจากอำเภอกังไส(มณฑลเจียงซี) ประเทศจีน เดินทางมาตั้งถิ่นอยู่ที่อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ตในสมัยนั้นระหว่างการแสดงที่อำเภอกะทู้ สมาชิกคณะมีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุและป่วยเป็นโรคมาลาเรีย เพื่อกำจัดโรคนี้ ประชาชนจึงรับประทานอาหารและรักษาศีล ตั้งแท่นบูชา และปฏิบัติพิธีกรรมบูชาจักรพรรดิหยกและจักรพรรดิทั้งเก้า

หลังจากพิธีกรรมหลายครั้ง ผู้คนในคณะก็หายเป็นปกติอย่างปาฏิหาริย์ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่ฮือฮาอย่างรวดเร็ว และชาวบ้านก็เชื่อในเรื่องนี้ ตั้งแต่นั้นมา ความเชื่อเรื่องเก้าจักรพรรดิก็ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในจังหวัดภูเก็ต

ผู้คนเชื่อว่ากิจกรรมในช่วงเทศกาลกินเจสามารถช่วยให้พวกเขาชำระล้างร่างกายและจิตใจและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ได้ ในช่วงเทศกาล ผู้คนจะงดเว้นจากการรับประทานเนื้อสัตว์ ดื่มสุรา ราคะ การทะเลาะวิวาท การโกหก และการฆ่าสัตว์ การปฏิบัติตามศีลและการสักการะเหล่านี้จะทำให้ผู้คนได้รับพร 3 ประการ ได้แก่ โชคลาภ ความมั่งคั่ง และอายุยืนยาว ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมมาเพลิดเพลินกับเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต

ความหมายของคำว่า “เจ”

คำว่า เจ (齋) หรือ ไจ ในภาษาจีนกลางทางพุทธศาสนานิกายมหายาน มีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ การกินอาหารเจก็จะกินก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับศาสนาพุทธที่จะถือศีลหรือรักษาศีล 8 โดยจะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันเป็นต้นไป การถืออุโบสถในทางพุทธจะไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการ ถือศีลกินเจ ปัจจุบันคนที่กินอาหารครบ 3 มื้อแต่ไม่กินเื้นอสัตว์ ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายของคำว่ากินเจไม่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คงดำรงต่อศีลธรรมอันดีงามทั้ง กาย ใจ และวาจา  

การกินเจ คือการละเว้นจากเนื้อสัตว์ ดำรงตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี มีความบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งการกินเจจะนิยมกินล่วงหน้าก่อน 1 วัน เพื่อล้างท้อง ปรับสภาพร่างกาย และทำความคุ้นเคยก่อนการกินเจได้ดียิ่งขึ้น 

การเฉลิมฉลองกิจกรรมในช่วงเทศกาลกินเจภูเก็ต

ในช่วงเทศกาลกินเจจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายให้บรรดานักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ตั้งแต่การต้อนรับเทพเจ้าจักรพรรดิทั้ง 9 ไปจนถึงการอำลาพระองค์ กิจกรรมและพิธีกรรมหลักในช่วงเทศกาลกินเจได้แก่ การสวดมนต์ ให้รางวัลแก่กองทัพ การเซ่นไหว้เพื่อนเก่าที่ถือศีลอด การเซ่นไหว้ดาวเจ็ดดวง พิธีจักรพรรดิทั้งเก้าและเหล่าเทพเจ้าลาดตระเวน การข้ามไฟ ปีนบันไดมีด ข้าม สะพาน , ส่งเทพเจ้า, ลดเสาไฟและเปิดเนื้อ และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางจิต การกินเจอย่างเข้มงวด ฯลฯ 

บรรยากาศงานรื่นเริงมาก มีฆ้อง กลอง ทั่วทุกแห่ง และเสียงประทัด ผู้คนสวมผ้าพันคอสีขาวและถือรูปปั้นเทพเจ้าแห่ไปตามถนน มีการวางเครื่องบูชามังสวิรัติต่างๆ ไว้บนถนนด้วย โดยมีกระดาษสีเหลืองที่มีคำว่า “ชิงไจ้” แทรกไว้เพื่อให้ผู้คนถวายธูปและสักการะพระพุทธเจ้า ชายและหญิงที่อุทิศตนจะสวมเสื้อผ้าและกางเกงสีขาวที่สะอาด และไปวัดเพื่อสักการะพระพุทธเจ้าทั้ง 9 พระองค์เพื่อขอพรจากเทพเจ้า และเพื่อป้องกันภัยพิบัติและความเจ็บป่วย สิ่งที่หลายๆคนอาจจะประหลาดใจนั้นก็คือ การใช้มีด ดาบ แทงเข้าไปที่ใบหน้า ซึ่งเป็นความเชื่อว่ากระทำเพื่อล้างบาป

แน่นอนว่าเทศกาลกินเจไม่ได้จัดขึ้นเฉพาะในภูเก็ตเท่านั้นแต่ยังจัดขึ้นในส่วนอื่นๆ ของไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เมียนมาร์ และประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังสามารถชมกิจกรรมรำลึกถึงเทศกาลกินเจได้อีกด้วย เพียงแต่ว่าเทศกาลนี้ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นในสถานที่ท่องเที่ยวของภูเก็ต

กินเจได้ประโยชน์อะไรบ้าง

ประโยชน์การกินเจ อย่างแรกเลยของการกินเจก็คือในด้านสุขภาพ เพราะว่าอาหารเจนั้นจัดได้ว่าเป็นอาหารแนวชีวจิต เพราะฉะนั้นการที่เรากินอาหารชีวิตจิตติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็จะทำให้ร่างกายนั้นมีการปรับสมดุลและก็ถือได้ว่าเป็นการล้างทำความสะอาดระบบของร่างกายด้วย มีการขับสารพิษออกมา ทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิต ระบบทางเดินอาหารมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น นั่นก็คือสุขภาพก็ดีขึ้นไปด้วย 

อาหารเจและอาหารมังสวิรัติแตกต่างกันอย่างไร

ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆนั้น การกินเจและมังสวิรัติก็ถือได้ว่าการกินอาหารและรูปแบบนั้นไม่มีความแตกต่างกันมากนัก หลักๆคือจะไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์เพื่อปรุงอาหาร แต่การกินของแต่ละคนจะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ซึ่งการกินที่แตกต่างจึงทำให้มีรูปแบบ 8 ประเภท ดังนี้

  1. การกินมังสวิรัติแบบแมคโครไบโอติก คนกลุ่มนี้จะงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ทุกชนิด 
  2. มังสวิรัตินม-ไข่ คนกลุ่มนี้จะงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ แต่จะกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม-ไข่ ได้ 
  3. มังสวิรัติไข่ หลักๆคนกลุ่มนี้จะไม่กินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ และไม่กินนม แต่ยังกินไข่ 
  4. มังสวิรัตินม หลักๆคนกลุ่มนี้จะไม่กินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ และไม่กินไข่ แต่ยังกินนม 
  5. มังสวิรัติแบบเจ คนกลุ่มนี้จะไม่กินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ และผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด แต่ในกรณีที่คนเริ่มต้นกินเจใหม่ก็จะยกเว้นให้กินไข่ นม น้ำผึ้ง ได้ แต่เื่อถึงช่วงเทศกาลถือศีลกินผักก็จะต้องงด 9 วันด้วย
  6. มังสวิรัติบริสุทธิ์ คนกลุ่มนี้จะงดกินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ ไม่กินไข่-นม 
  7. มังสวิรัติพืชสด คนกลุ่มนี้จะงดกินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ จะกินผักและผลไม้ที่สดดิบ ไม่ผ่านการปรุงสุก
  8. มังสวิรัติผลไม้ คนกลุ่มนี้จะงดกินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ จะกินเฉพาะผลไ้และถั่วเท่านั้น 

ดังนั้นเราจะรู้แล้วว่าผู้ที่ กินอาหารเจและอาหารมังสวิรัติ นั้น จะไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์เหมือนกัน แต่จะมีเฉพาะรายละเอียดความแตกต่างในการกินเท่านั้นเอง

ข้อห้ามในเทศกาลกินเจ

  1. งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด
  2. งดเนื้อ นม ไข่ หรือน้ำมันที่ทำจากสัตว์ 
  3. งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก และเปรี้ยวมาก
  4. งดผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ
  5. ไม่ใช้จานชามปะปนกัน และต้องกินอาหารที่ผู้กินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงเท่านั้น 
  6. งดดื่มสุรา และเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด 

สาเหตุที่ห้ามกินผัก 5 ชนิด

การกินเจ ก็คือการงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ แต่ว่าในความเชื่อของจีนจะมีผักอยู่ 5 ชนิด ที่เป็นผักต้องห้ามสำหรับคนกินเจ สาเหตุที่เป็นผักต้องห้าม แม้ว่าผักบางอย่างนั้นจะมีประโยชน์กับร่างกายก็ตามแต่ว่าคนจีนเชื่อว่าผักทั้ง 5 ชนิดนั้น จะไปทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในตัวเรา ซึ่งพลังธาตุทั้ง 5 ที่อยู่ในตัวเรานั้นก็คือ ไม้ ไฟ น้ำ ดิน แล้วก็ทองหรือว่าโลหะนั่นเอง ผัก 5 ชนิดที่ว่านี้ก็คือ หอม กระเทียมกุยช่าย หลักเกียว และใบยาสูบ 

หอม ทำลายธาตุน้ำ น้ำก็คือไต

กุยช่าย ทำลายธาตุไม้ ไม้ก็คือตับ

กระเทียม ทำลายธาตุไฟ ไฟก็คือหัวใจ

หลักเกียว ทำลายธาตุดิน ดินก็คือม้าม

ใบยาสูบ ทำลายธาตุทอง ก็คือปอด

เพราะฉะนั้นการกินผัก 5 ชนิดนี้ในความเชื่อของจีน บอกว่ามันจะไปทำให้ร่างกายของเรานั้นไม่สมดุลมีผลทำให้หงุดหงิดง่ายฉุนเฉียวโกรธง่ายและอารมณ์แปรปรวน ทำให้จิตใจไม่ผ่องใส ซึ่งเป็นข้อไม่ดีของผู้ที่ถือศีลบำเพ็ญปฏิบัติธรรมนั่นเอง  แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการกินเจใหม่ๆนอกจากงดดูเว้นการกินเนื้อสัตว์และผัก 5 ชนิดนี้แล้ว ก็ยังมีข้ออนุโลมให้อยู่บ้างที่ยังคงกินไข่ไก่ได้ แต่ไม่กินไข่เป็ดหรือไข่ที่มีการผสมพันธุ์ระหว่างตัวผู้กับตัวเมีย ยังคงกินน้ำผึ้งและนมได้ แต่ถ้าเป็นช่วงของเทศกาลถือศีลกินเจเดือน 9 ตลอด 9 วันถือว่าเป็นช่วงของการกินเจแบบสะอาดเคร่งครัด แม้จะเป็นผู้ที่เริ่มต้นกินเจใหม่ๆอันนี้ก็ต้องงดเว้นการกินไข่ทุกชนิดรวมถึงนมและน้ำผึ้งด้วย

ความหมายของธงเจ

ธงเจ เป็นธงที่ใช้สำหรับแสดงสัญลักษณ์ของอาหารเจ โดยธงเจจะมีลักษณะเป็นธงสีเหลืองมีตัวอักษรจีนสีแดงเขียนว่า “เจ” ซึ่งแปลว่า “ไม่มีของคาว” หรือ “การสักการบูชา”

ธงเจมีความหมายดังนี้

  • สีแดง เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อของชาวจีน สีแดงเป็นสีของโชคดี ความสุข และพลัง ดังนั้น ธงเจจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล
  • สีเหลือง เป็นสีของผู้ทรงศีล ตามความเชื่อของศาสนาพุทธ สีเหลืองเป็นสีของพระสงฆ์ ดังนั้น ธงเจจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของผู้ทรงศีล

ดังนั้น ธงเจ มีความหมายทั้งในด้านความเป็นสิริมงคลและในด้านของผู้ทรงศีล ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของชาวจีนและชาวพุทธที่ถือศีลกินเจ นอกจากนี้ธงเจยังสามารถใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเตือนสติให้ผู้ที่กินเจตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอีกด้วย

วัตถุประสงค์ของการกินเจสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประการหลัก ๆ ดังนี้
  • ทางศาสนา การกินเจเป็นการปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาต่าง ๆ เช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู ศาสนาเชน ศาสนาเต๋า เป็นต้น โดยหลักธรรมเหล่านี้สอนให้มนุษย์มีความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม การกินเจจึงถือเป็นการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เป็นการแสดงความเคารพต่อสัตว์โลก และช่วยส่งเสริมสันติสุขของโลก
  • ทางสุขภาพ การกินเจเป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร การกินเจจึงช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน เป็นต้น

บทสวดเจ้าแม่กวนอิม ช่วงเทศกาลกินเจ

บทสวดไต๋ซือ ไต๋ปุย ขอพรพระแม่กวนอิม

นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย กิวโคว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก๊ำ กวงสีอิมผู่สัก ( กราบ )
นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย กิวโคว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก๊ำ กวงสีอิมผู่สัก ( กราบ )
นำโม ไต่ชือ ไต่ปุย กิวโคว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก๊ำ กวงสีอิมผู่สัก ( กราบ )

นำโมฮุ๊ก นำโมฮวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโค่ว กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก
ถั่งจี้โต โอม เกียล้อฮวดโต เกียลอฮวดโต เกียลอฮวดโต ล้อเกียฮวดโต
ล้อเกียฮวดโต ซาผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี้ซิ้ง
เจ็กเฉียก ไจเอียงฮวยอุ่ยติ้ง นำโม ม่อออ ปวกเยี่ยะ ปอล่อบิ๊ก ( กราบ )

(ยิ่งภาวนาวันละหลายจบยิ่งมีอานิสงส์มาก )

คำแปล บทสวด ไต๋ซือ ไต๋ปุย

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์
พระผู้เปี่ยมล้นด้วยพระมหาเมตตา พระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาล
ขอได้โปรดบำบัดทุกข์โศก โรคภัยอันตรายทั้งปวง
ข้าพเจ้าขอน้อมถึง พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ
พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์
ขอได้โปรดขจัดปัดเป่าทุกข์โศก โรคภัยทั้งปวงให้หมดสิ้นไป
ขอความสุข สมปรารถนาทุกประการ จงมีแด่ข้าพเจ้า
ขอเทพเจ้าเบื้องบน และเทพเจ้าเบื้องล่างทั้งหมด
ได้โปรดปัดเป่า ให้เวรกรรม และสรรพเคราะห์ทั้งมวล จงหมดสิ้นไป

เทศกาลอื่นๆ : festivalguid.com

บทความแนะนำ

ตรุษจีน

เทศกาลตรุษจีน ประเพณีและล

Read More »

เทศกาลผีตาโขน มรดกภูมิปัญ

Read More »
ทำบุญบ้าน

ประเพณีทำบุญบ้าน ทำบุญบ้า

Read More »

เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล (Ven

Read More »
new year festival

เทศกาลปีใหม่ มีกิจกรรมวัน

Read More »
fuji shibazakura festival

เทศกาลฟูจิชิบะซากุระ 2024

Read More »